ผีนางอัปสรา ปราสาทขอม




หลายท่านคงเคยไปเที่ยวปราสาทหิน หรือคงรู้จักมาบ้างนะครับ หนึ่งในสัญลักษณ์ที่ใครไปเที่ยวต้องไปดูให้ได้คือรูปจำหลักนางอัปสราตามกำแพงของปราสาทแต่ละที่ เพราะแต่ละที่ก็จะมีนางอัปสราที่แสดงท่วงท่าร่ายรำ หรือใส่เครื่องทรงแต่งกายที่ต่างกันออกไป แต่เคยคิดสงสัยไหมครับว่าทำไมต้องมีรูปนางอัปสราในปราสาท
เรื่องตำนานการเกิดนางอัปสราแบบกระแสหลักที่กล่าวถึงคราวกวนเกษียรสมุทรนั้นหลายท่านคงเคยทราบกันมาบ้างแล้ว จึงขอข้ามไปเล่าด้านตำนานกระแสรองที่น่ากลัวมากกว่าและไม่ค่อยแพร่หลายมากนักดีกว่านะครับ
ตำนานกล่าวว่า นางอัปสราที่เราเห็นมากมายตามจำหลักหินในปราสาทนี้ เดิมทีเป็นหญิงสาวชาวบ้านที่หน้าตาสะสวย ผิวพรรณงดงาม เ็นที่เลื่องลือระบือไกล พูดง่ายๆ คือเป็นสาวงามประจำแว่นแคว้นต่างๆ ในเขตการปกครองของอาณาจักรขอมโบราณ ซึ่งในยุครุ่งเรื่องมีอาณาเขตกว้างไกลมาก
กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอมโบราณมีความเชื่อว่า อัครมเหษีของตนต้องเป็นนางนาคตามตำนานพระทอง-นางนาค หรือตำนานการก่อเกิดชนชาติขอม ในคืนวันเพ็ญกษัตริย์ขอมต้องขึ้นบรรทมยังปราสาทของนางนาคเพื่อร่วมหลับนอนกับนางนาคตามความเชื่อ ส่วนเหล่าสนมนางในที่เป็นมนุษย์จะถวายการรับใช้ในวันปกติธรรมดา
ในสมัยนั้นการปกครองในแต่ละอาณาจักรจะยกเอาพระมหากษัตริย์ขึ้นเป็นดั่งองค์อวตารของเทพเจ้า ดังนั้นพระองค์จะมีสิทธิ์ขาดในชีวิตและทรัพย์สินทุกสิ่งในอาณาจักรของพระองค์ และเป็นธรรมดาว่าหญิงงามที่เป็นที่เลื่องลือในแต่ละที่ก็ย่อมเป็นที่หมายพระทัยของกษัตริย์ด้วย เหล่าหญิงสาวเหล่านั้นจึงต้องเข้าถวายตัวต่อองค์กษัตริย์
ธรรมเนียมการถวายตัวนั้น แน่นอนว่าเมื่อกษัตริย์เปรียบดั่งเทพเจ้า หญิงสาวผู้ให้ความสำราญแก่เทพเจ้าจึงเปรียบเหมือนนางอัปสราบนสรวงสวรรค์ การเข้าถวายตัวจึงต้องผัดหน้าให้ขาวผ่อง แล้วเปลือยอกใส่เครื่องทรงตามคติความเชื่อ เพื่อแสดงถึงภูมิเดิมขององค์กษัตริย์
หญิงสาวเหล่านั้นต้องยินยอมเป็นบาทบริจาริกา ถวายงานองค์กษัตริย์โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ หากหญิงสาวผู้ใดกล้าปฏิเสธองค์กษัตริย์ นั่นหมายถึงจุดจบของชีวิตและความทุกข์ทรมาณชั่วนิรันดร์
หญิงสาวที่ปฏิเสธไม่ยอมถวายตัวแก่องค์กษัตริย์จะถูกนำไปประหารเพื่อเซ่นสังเวยแด่องค์เทพผู้เป็นประธานในปราสาทหิน ซึ่งโดยมากมักเชื่อว่าเป็นองค์เทพผู้อวตารลงมาเป็นองค์กษัตริย์ โดยมีการประกอบพิธีกรรมโดยพราหมณ์ปุโรหิต ซึ่งจะทำการแกะสลักรูปแทนตัวของหญิงสาวผู้นั้นในชุดเข้าถวายตัว แล้วกักขังดวงวิญญาณที่ถูกฆ่าลงในจำหลักหิน เพื่อติดตามรับใช้องค์กษัตริย์ในภาคของเทพเจ้าไปตลอดกัลปาวสาน
รูปแกะสลักนางอัปสราทุกองค์จึงเปรียบเสมือนที่กักขังดวงวิญญาณหญิงสาวที่ถูกประหารชีวิต และเชื่อว่านางทั้งหมดจะมีสิทธิ์ในการออกมาจากจำหลักหินได้เพียงในวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น
จึงมีเรื่องเล่าว่ามีผู้พบเห็นนางอัปสรามากมายหลายองค์กำลังร่ายรำอยู่บนปราสาทหินในวันพระจันทร์เต็มดวง หรือได้ยินเสียงดนตรีบรรเลงเพลงโบราณดังมาจากปราสาทขอม เพราะนางอัปสราทั้งหมดจะใช้การร่ายรำหรือการบรรเลงดนตรีในการผ่อนคลายความทุกข์ยาก และทำให้ลืมความทุกข์ของตนในช่วงเวลาถูกจองจำไปเสียบ้างแค่ช่วงคืนก็ยังดี
พอถึงรุ่งเช้านางอัปสราทั้งหมดทุกนางก็จะถูกจองจำเอาไว้ในจำหลักหินของตนดังเดิมโดยไม่มีผู้ใดสามารถถอดถอนคำสาปนี้ได้ จนถึงทุกวันนี้
ทีนี้หากใครได้ไปเที่ยวปราสาทหินก็อย่าลืมแวะไปพูดคุยกับนางอัปสราดูบ้างนะครับ เผื่อจะช่วยให้นางหายเครียดได้บ้าง อ่านจบแล้วก็ช่วยคอมเม้นต์พูดคุย ติชม หรือแสดงความคิดเห็นกันด้วยนะครับ จะได้เป็นกำลังใจในการเขียนเรื่องต่อไป ขอบคุณล่วงหน้าครับผม


#ชยาเป็นคนเล่า

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อาถรรพ์อาชีพหมอดู

เกล้านางนี เมาลีโพธิสัตว์