บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ตุลาคม, 2018

รูปปั้นพญานาคผีสิง

รูปภาพ
รูปปั้นพญานาคผีสิง เรื่องที่จะเล่าวันนี้ก็เช่นเดิมครับ เป็นเรื่องที่ผมประสบพบเจอกับตัวเองอีกครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง คงจะจำได้นะครับว่าช่วงที่กระแสพญานาคกำลังมาแรงนั้น หลายคนก็ได้เสาะแสวงหารูปปั้นพญานาคมาบูชาเป็นมงคลแก่ตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่รู้ได้อย่างไรครับว่าในรูปปั้นพญานาคนั้นคือองค์พญานาคจริงๆ... ผมเป็นอีกคนครับที่ศรัทธาและบูชาองค์พญานาค เป็นกลุ่มที่บูชาก่อนกระแสมาหลายปีด้วยซ้ำ เมื่อก่อนการบูชาพญานาคมีพิธีรีตรองมากมาย ต้องใส่ใจเป็นอย่างมากในการบูชาเซ่นไหว้ ยิ่งการตั้งบ่อหรือตั้งอ่างพญานาคนั้น มีพิธียิบย่อยมากมายอย่างกับตั้งศาลพระภูมิเลยทีเดียว เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีอาซ้อท่านหนึ่งติดต่อมาปรึกษากับผม เพราะทราบจากหลานสาวของท่านที่เคยมาดูดวงกับผมไปแล้วหลายหนด้วยกัน อาซ้อท่านนี้มีกิจการค้าส่งวัสดุก่อสร้าง และมีบ้านอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับร้านค้าส่งวัสดุของแกเอง โดยร้านวัสดุก่อสร้างจะอยู่ด้านหน้า และมีบ้านของอาซ้ออยู่ถัดลงไปข้างหลัง ตัวบ้านมีรั้วกั้นต่างหาก อาซ้อเล่าว่าก่อนหน้านี้กิจการเจริญรุ่งเรื่องดีมาตลอด แต่สามสี่เดือนมานี้ยอดขายซบเซาลงมาก สา

คุณไสยยาสั่ง

รูปภาพ
คุณไสยยาสั่ง สวัสดีครับทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่ผมเจอมากับตัว มีพยานบุคคลที่อยู่ร่วมเหตุการณ์สามารถยืนยันได้ชัดเจน แต่ชื่อของตัวละครในเรื่องผมได้ทำการเปลี่ยนใช้ชื่อสมมติทั้งหมดเพราะผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์นี้ยังมีชีวิตอยู่ในปัจจุบัน ถ้าใช้ชื่อจริงอาจทำให้กระทบต่อชีวิตประจำวันเขาได้ จึงได้เปลี่ยนเป็นชื่อสมมติเพื่อความเหมาะสมครับ เรื่องนี้เกิดเมื่อ 3-4 ปีก่อน ตอนนั้นผมยังเรียนอยู่ ม.ปลาย คือช่วงที่ผมพึ่งจะศึกษาศาสตร์วิชากับครูบาอาจารย์ได้เพียงปี-สองปี คนที่รับรู้เรื่องของผมก็มีเพียงพ่อ แม่ และญาติใกล้ชิดเท่านั้น การรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ครั้งนี้จึงถือเป็นครั้งแรก และตั้งแต่ตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ยังถือว่าเป็นครั้งที่มีผลต่อผู้ถูกกระทำรุนแรงที่สุดด้วยครับ เรื่องมีอยู่ว่า . . . พี่ต้อมเป็นญาติห่างๆ ของผม ซึ่งพ่อของผมกับแม่ของพี่ต้อมเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน (ปู่ผมเป็นพี่ชายของตาพี่ต้อม) ด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้กันผมจึงค่อนข้างสนทกับบ้านพี่ต้อมตั้งแต่เด็ก ซึ่งเรื่องที่ผมชอบเรียนรู้วิชานี้บ้านพี่ต้อมก็รับรู้ด้วย พี่ต้อมมีแฟนสาวชื่อพี่ผึ้ง ทางบ้านพี่ต้อมค่อนข้างจะยากจนเพ

เกล้านางนี เมาลีโพธิสัตว์

รูปภาพ
เกล้านางนี เมาลีโพธิสัตว์ สวัสดีครับทุกคน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมชอบมากๆ อีกเรื่องเพราะผมมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับผู้มีเกล้านางนีท่านหนึ่ง เป็นผู้ที่ผมเคารพศรัทธามาก เกล้านางนี ผมผีผูก ผมผีช่อ ล้วนคือคำที่บ่งบอกถึงลักษณะของผมที่มัดเป็นปมติดกันโดยไม่ทราบสาเหตุ และไม่สามารถสางออกหรือตัดออกได้ ตามความเชื่อคนที่มีผมเกล้านางนีมีอยู่ 2 ประเภท คือคนที่อธิษฐานบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์มาตั้งแต่อดีต และผู้ที่ถูกควบคุมจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คนกลุ่มแรกคือคนที่อธิษฐานบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์ เมื่อเกิดมาในชาติปัจจุบัน จะบังเกิดผมเกล้านางนีขึ้นเพื่อย้ำเตือนไม่ให้หลงทางปฏิบัติ เชื่อว่าเมื่อถึงวันพระหรือวันสำคัญผมเกล้าจะดึงรั้งหัวจนปวด และจะหายเมื่อเจ้าของผมเกล้าสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติภาวนา อีกประเภทคือผู้ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองอยู่เป็นเฉพาะแต่มีความประพฤติไม่ค่อยดีนัก สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะทำให้ผู้นั้นเกิดผมเกล้านางนีขึ้นมาเพื่อควบคุมความประพฤติของบุคคลนั้นให้เป็นไปตามธรรม ผมเกล้านางนีนี้เกิดขึ้นเองโดยไม่มีผู้ใดถักทอขึ้นมาได้ ตัวผมเองก็เคยเห็นคนที่ผมเกล้านางนีจับตัวกันต่อหน้าต่อตา

ผีนางอัปสรา ปราสาทขอม

รูปภาพ
หลายท่านคงเคยไปเที่ยวปราสาทหิน หรือคงรู้จักมาบ้างนะครับ หนึ่งในสัญลักษณ์ที่ใครไปเที่ยวต้องไปดูให้ได้คือรูปจำหลักนางอัปสราตามกำแพงของปราสาทแต่ละที่ เพราะแต่ละที่ก็จะมีนางอัปสราที่แสดงท่วงท่าร่ายรำ หรือใส่เครื่องทรงแต่งกายที่ต่างกันออกไป แต่เคยคิดสงสัยไหมครับว่าทำไมต้องมีรูปนางอัปสราในปราสาท เรื่องตำนานการเกิดนางอัปสราแบบกระแสหลักที่กล่าวถึงคราวกวนเกษียรสมุทรนั้นหลายท่านคงเคยทราบกันมาบ้างแล้ว จึงขอข้ามไปเล่าด้านตำนานกระแสรองที่น่ากลัวมากกว่าและไม่ค่อยแพร่หลายมากนักดีกว่านะครับ ตำนานกล่าวว่า นางอัปสราที่เราเห็นมากมายตามจำหลักหินในปราสาทนี้ เดิมทีเป็นหญิงสาวชาวบ้านที่หน้าตาสะสวย ผิวพรรณงดงาม เ็นที่เลื่องลือระบือไกล พูดง่ายๆ คือเป็นสาวงามประจำแว่นแคว้นต่างๆ ในเขตการปกครองของอาณาจักรขอมโบราณ ซึ่งในยุครุ่งเรื่องมีอาณาเขตกว้างไกลมาก กษัตริย์แห่งอาณาจักรขอมโบราณมีความเชื่อว่า อัครมเหษีของตนต้องเป็นนางนาคตามตำนานพระทอง-นางนาค หรือตำนานการก่อเกิดชนชาติขอม ในคืนวันเพ็ญกษัตริย์ขอมต้องขึ้นบรรทมยังปราสาทของนางนาคเพื่อร่วมหลับนอนกับนางนาคตามความเชื่อ ส่วนเหล่าสนมนางในที่เป็นมนุษย์จะถวายการ

พรานล่าช้าง

รูปภาพ
พรานล่าช้าง สวัสดีครับทุกคน ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องที่เกิดกับผมโดยตรง แต่เป็นเรื่องที่คุณตาผมท่านเล่าให้ฟัง ซึ่งคุณตาก็ฟังอาของคุณตาเล่ามาอีกทีตั้งแต่สมัยคุณตาเป็นเด็ก ผมจึงไม่ค่อยรู้รายละเอียดปลีกย่อยของเรื่องมากนักแต่เห็นว่าเรื่องน่าสนใจดีจึงอยากนำมาเล่าให้ได้อ่านกัน อ่านแล้วรบกวนคอมเม้นติชมเป็นกำลังใจให้ด้วยนะครับ เรื่องนี้เกิดเมื่อประมาณ 50 กว่าปีก่อนครับ ตอนนั้นคุณตาผมอายุน่าจะยังไม่ถึง 10 ขวบดี บ้านเกิดคุณตาอยู่ที่ อ.สุวรรณคูหา จ.หนองบัวลำภูครับ ก่อนจะแต่งงานกับคุณยายและได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านคุณยายที่ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ซึ่ง จ.หนองบัวลำภูในสมัยก่อนเป็นส่วนหนึ่งของ จ.อุดรธานี และในสมัยนั้นป่าไม้ยังอุดมสมบูรณ์ เต็มไปด้วยสัตว์ป่าที่หายากในปัจจุบัน ทั้งกวาง หมูป่า ชะมด รวมไปถึงสัตว์ใหญ่อย่าง เสือ หมี และช้างป่าครับ บ้านของคุณตาประกอบอาชีพทำนาและเก็บของป่าเป็นหลักครับ โดยผู้ชายจะเป็นคนที่เข้าป่าเพื่อล่าสัตว์เพื่อนำมาประกอบอาหาร สมัยนั้นการค้าซากสัตว์ยังสามารถกระทำกันได้อย่างโจ่งแจ้ง รวมทั้งพื้นที่แถบนั้นยังอยู่ไกลหูไกลตากฏหมาย การล่าสัตว์ใหญ่เพื่

อาถรรพ์อาชีพหมอดู

รูปภาพ
อาถรรพ์อาชีพหมอดู สวัสดีครับทุกคน ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้เพราะปัจจุบันสื่อสังคมออนไลน์สามารถทำให้คนเข้าถึงการดูดวงได้ง่ายมาก การดูดวงระหว่างหมอดูและลูกดวงสามารถทำได้แม้อยู่ห่างกันคนละซีกโลก กติการะหว่างหมอดูกับลูกดวงก็เปลี่ยนไปจนไม่เหลือเค้าเดิมเช่น แชร์ 3 ครั้งดูฟรี 1 คอมเม้นต์ดูฟรี ทายเลยถูกดูฟรี และอื่นๆ อีกมากตามแต่ผู้เป็นหมอดูจะสรรหามา ผมก็เป็นอีกคนที่เรียนศาสตร์การพยากรณ์และเป็นหมอดูเต็มตัวตั้งแต่อายุ 14 ปัจจุบันถึงจะอายุยังไม่เต็ม 21 ดีนักแต่ด้วยความที่ครูบาอาจารย์ที่สอนศาสตร์ดังกล่าวแก่ผมท่านยังยึดรูปแบบตามฉบับเดิมและยังคงยึดถือจาริยวัตรแห่งโหรไว้อย่างดี (ผมกล้ากล่าวได้เลยว่าผมเป็นศิษย์วังนาคีอุดรธานีได้เต็มปาก) ผมจึงได้เรียนรู้ศาสตร์นี้ตามลำดับขั้นตอน และมีข้อห้ามที่ยังคงยึดถือปฏิบัติตามจารีตเดิม ตัวอย่างเช่น - ค่าครู ที่ต้องเก็บ 12 บาทเป็นขั้นต่ำทุกคน และค่ากำนลตามแต่จะตกลงกัน การเก็บค่าครูถือเป็นสิทธิ์ขาดของครู ไม่สามารถนำเงินส่วนนี้มาใช้ได้(ต้องนำไปทำบุญหรือซื้อของถวายเท่านั้น) ส่วนค่ากำนลจะเก็บเล็กเก็บน้อยก็ตามแต่จะเห็นสมควร แต่จำเป็นต้องเก็บ เพื่อไม่ใ

เปรตพระที่ถ้ำบนเขา

รูปภาพ
เปรตพระที่ถ้ำบนเขา วันนี้เขียนลงอีกเรื่องแล้วกันครับ มีคนคอมเม้นแสดงความคิดเห็นโพสต์ที่แล้วเยอะ เห็นแล้วมีกำลังใจเขียนเรื่องนี้ต่อ # ชยาเป็นคนเล่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมเจอมากับตัวครับ เรื่องอาจไม่มีสตอรี่อะไรมาก แต่ก็ถือเป็นไม่กี่ครั้งในชีวิตที่เจอแบบจังๆ กลางวันแสกๆ เรื่องมีอยู่ว่า . . . ช่วงนั้นเป็นช่วงที่มหาลัยผมพึ่งจะสอบเสร็จครับ นักศึกษาหลายคนยังไม่กลับย้านเพราะต้องรอเคลียร์งานค้างต่างๆ ผมก็เป็นหนึ่งคนที่ยังไม่กลับบ้าน เพราะนอกจากจะต้องจัดการงานค้างต่างๆ แล้ว ยังเป็นช่วงที่เหมาะกับการขับรถเที่ยวชิวๆ ก่อนไปพักผ่อนยาวที่บ้าน จังหวัดที่ผมเรียนอยู่มีภูเขาเยอะมากครับ ที่เที่่ยวส่วนใหญ่ก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ โดยเฉพาะผมที่ชอบเที่ยวตามวัดวาอารามด้วย วัดที่มีธรรมชาติงดงามจึงเป็นสถานที่ปักหมุดต้นๆ ของผมครับ ช่วงก่อนหน้านั้นหลายวันผมก็บ่นกับพี่คนนึงที่สนิทกันว่าเบื่อๆ ไม่มีอะไรจะทำ อยากไปเที่ยวโน่นนี่ ตามประสานักศึกษามหาลัยพึ่งจะสัมผัสคำว่าว่างครับ วันก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่องพี่ผมคนนี้เลยส่งรีวิววัดถ้ำแห่งหนึ่งที่มีชื่อเสียงพอสมควรเรื่องหินงอกหินย้อยที่

บายศรีสูตรขวัญ

รูปภาพ
บายศรีสูตรขวัญ ชาวอีสานมีความเชื่อว่ามนุษ ย์นั้นนอกจากจะมีกายสังขารแ ละจิตวิญญาณแล้ว ยังมีขวัญที่สถิตอยู่ด้วยบร ิเวณศรีษะ เรียกว่ากระหม่อมจอมขวัญ หากประสบเหตุอันใดที่ทำให้ต กใจมาก ทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี   เชื่อว่าจะทำให้ขวัญตกหายแล ้วหลงไป เรียกว่าขวัญหนีดีฝ่อ (ตรงกับเรื่อง อา คา บัค ของชาวอียิปต์โบราณอย่างไม่ น่าเชื่อ) เมื่อขวัญไม่อยู่กับเนื้อกั บตัวก็จะทำให้ไม่เป็นอันอยู ่กินหลับนอน เจ็บไข้ได้ป่วยไม่ส บาย หากเป็นการมงคลเช่นแต่งงาน สอบเรียนต่อได้ ได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง   เชื่อว่าขวัญจะออกไปสักพักแ ล้วจะกลับมาเอง กรณีนี้จะจัดพิธีรับขวัญ ผูกแขน คำว่าผูกแขนน่าจะมาจากคำว่า ผูกข้อต่อแขน คือการผูกด้ายที่ข้อมือคนๆ นึง แล้วมีคนอื่นๆ จับแขนต่อๆ กันไปเพื่อเป็นการรับสิ่งมง คล ส่วนคนข้างหลังที่จับแขนต่อ อยู่ก็จะช่วยยกแขน เหมือนช่วยผลักดันหนุนให้รั บมงคลได้อย่างเต็มที่ ส่วนในกรณีที่ประสบอุบัติเห ตุ หรือมีเหตุการณ์ใดทำให้ตกใจ จนขวัญหลุดลอยไป จะมีการไปเก็บขวัญกลับมาเรี ยกว่าการส่อนขวัญ แล้วทำพิธีสูตรขวัญเข้าใหม่ อีกที หรือบางตำราบอกว่าให้สูตรขว ัญใหม่เลยไม่ต้อง

ยกอ้อยอครู

รูปภาพ
ยกอ้อยอครู สืบเนื่องจากคาถาเรียนหนังส ือเก่งของอาจารย์ฮาร์ท วังนาคี "อะอิ่งอ้อฯ" แล้วก็บลาๆๆ คาถาอะไรแปลกแท้ เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนซั กแห่ง เอาละสิทีนี้ ค้างเลย ตำรามีกี่เล่มเปิดๆๆๆๆๆ จนเจอคาถาบทหนึ่ง "อ้อเข้าปล้องอ้อคล่องอ้อหม ื่นฯ" โช๊ะเด๊ะ! เลยทีนี้ ร้องอ้อ เอ๊ยย!! อ๋อ.. ขึ้นทันใด พลิกกลับไปดูหัวเรื่อง นี่มันของในตำนาน วิชาอีสานขนานแท้ไม่มีใดอื่ นเจือปนเรียกว่า "อ้อ" วิชาอ้อเป็นวิชาที่นิยมเรีย นกั นในหมู่ศิลปินอีสาน แม่นแล้ว วิชาหมอลำนี่ละจ้า ก่อนจะขึ้นแสดงเขาจะมีการไห ว้ครูก่อน คุ้นๆ กันไหมกับคำว่า "ยกอ้อยอครู" วิชาอ้อเป็นวิชาที่อาศัยแรง ครูเป็นหลัก ไม่ต้องเน้นจิตใดๆ เพราะการท่องอ้อต้องใส่จังห วะและทำนองเข้าไปด้วย ก่อนจะเรียนกลอนรำเขาต้องรั บขันธ์ครูกันก่อน และก่อนจะรำก็จะมีการตั้งขั นธ์ครูกันอีกที ในสมัยก่อนคนที่จะเรียนหมอล ำต้องท่องจำเอาเท่านั้น และการที่จะทำให้เรียนรู้จด จำได้เร็วต้องใช้อ้อที่ชื่อ ว่า "อ้อป่อง" ฮั่นแน่! แน่นอน อ้อป่องก็คือคาถาเรียนเก่งข องอาจารย์ฮาร์ทนั่นเอง ป่อง เป็นคำโบราณ แปลว่า ฉลาด อ้อป่อง จึงทำให้

นาคไฟ

รูปภาพ
เรื่องเล่าปนมโนวันนี้ สืบเนื่องจากการ(ทำตัวเหมือ น)ว่าง เลยซอกๆ แซกๆ หาดูตามกลุ่มในเฟสบุ๊ค เห็นมีคนถามว่า 'ทำไมคนที่มีองค์บารมีเป็นพ ญานาคถึงต้องเป่าไฟ' เราก็เกิดคันปากอยากจะตอบขึ ้นมา แต่ถ้าจะไปเผยตัวมันก็ไม่ใช ่ที่ ก็มึงไม่ได้ถามกูนี่หว่า เลยเอาเป็นว่ามาโพสต์ของตัว เองนี่แหละ จะได้สนองความหงี่ตัวเองด้ว ย หมายเหตุ:บทความนี้เป็นความ คิดเห็นส่วนตัว ไม่ขออ้างอิงพาดพิงถึงใครทั ้งสิ้น   พญานาคท่านก็มีหลายจำพว ก ก็ไม่แปลกที่จะมีทั้งนาคเล่ นน้ำและนาคเล่นไฟ ธาตุไฟเป็นตัวแทนของความรุ่ งโรจน์ รุ่งเรื่อง แต่ในขณะเดียวกันยังหมายถึง การเผาผลาญ ทำลายล้างอีกด้วย ดังนั้นการเป่าไฟจึงเป็นการ แสดงออกถึงการเผาผลาญอุปาทว ะและเสนียดจัญไรทั้งหลายให้ มลายหายสิ้นไปกับเปลวไฟ แล้วยังช่วยเสริมฤทธานุภาพบ ารมีให้เกิดในพิธี เป็นการอำนวยพรให้เจ้าพิธีแ ละผู้เข้าร่วมมีความเจริญรุ ่งเรือง ร่ำรวย รุ่งโรจน์ เหมือนแสงไฟที่ลุกโชน อีกนัยหนึ่งคือการทำลายล้าง   ปราบอริมารราชศัตรูให้พ่ายแ พ้ไป ดังนั้นการเป่าไฟจึงเป็นการ ใช้พลังธาตุบวกการอธิษฐานจิ ตของผู้ทำพิธีกรรม รวมกับจิตที่ตั้งมั่นและญาณ ทิพย์ขององค์

ตำนานผีฟ้าพญาแถน

รูปภาพ
ตำนานผีฟ้าพญาแถน ชื่ออื่นๆ : ผีแถน ผีไท้ ผีฟ้า ผีหลวง  คำว่า พญา คือศักดิ์ชั้นกษัตริย์ ส่วน พระยา คือยศศักดิ์ในชั้นขุนนาง เพราะฉะนั้น แถน จึงสามารถมีได้ทั้ง พญาแถนที่เป็นระดับชั้นกษัต ริย์ราชนิกูลเช่น องค์แถนหลวง และพระยาแถนที่เป็นชั้นเจ้า นายเช่น แถนแก้ว ผีฟ้า แปลตามตัวคือผีที่อยู่บนฟ้า  นั่นก็คือเทวดานั่นเอง โดยเป็นคำเรียกรวมๆ ไม่เจาะจงองค์ใดองค์หนึ่ง เราจึงมักเรียกรวมกันว่า ผีฟ้าผีแถนหรือผีฟ้าพญาแ ถน โดยแถนที่มียศศักดิ์ใหญ่ที่ สุดคือ แถนหลวง(พระอินทร์) และยังมีแถนองค์อื่นๆ ตามที่มีชื่อในกลอนลำในพิธี รำผีฟ้าเช่น แถนตื้อเฒ่า แถนลือ แถนหล่อ แถนท่อฟ้า แถนแก้ว และแถนองค์อื่นๆ อีกมากมาย ตามความเชื่อแถนมีหน้าที่ดู แลทุกข์สุขของมนุษย์โลก ชาวอีสานเชื่อว่าเหตุใดก็แล ้วแต่ล้วนเป็นไปตามการกระทำ ของแถน หากมีเหตุเพศภัยอันใดที่หาส าเหตุและทางแก้ไม่ได้ ก็จะทำการติดต่อสื่อสารกับแ ถนหรือผีฟ้า โดยผ่านตัวกลางในการสื่อสาร คือ ไทเทิง และอาจมีชื่อเรียกตามแต่ละท ้องที่เช่น หมอลำผีฟ้า หมอลำธรรม หมอเหยา นางเทียม สุดแต่วัฒนธรรมของแต่ละท้อง ที่ โดยจะทำการติดต่อสื่อสารกับ แถนโดยวิธีการรำเสี่ยงทาย การประกอ