รูปปั้นพญานาคผีสิง

รูปปั้นพญานาคผีสิง

เรื่องที่จะเล่าวันนี้ก็เช่นเดิมครับ เป็นเรื่องที่ผมประสบพบเจอกับตัวเองอีกครั้งเมื่อต้นปีที่ผ่านมานี้เอง คงจะจำได้นะครับว่าช่วงที่กระแสพญานาคกำลังมาแรงนั้น หลายคนก็ได้เสาะแสวงหารูปปั้นพญานาคมาบูชาเป็นมงคลแก่ตัวเองกันทั้งนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

แต่รู้ได้อย่างไรครับว่าในรูปปั้นพญานาคนั้นคือองค์พญานาคจริงๆ...

ผมเป็นอีกคนครับที่ศรัทธาและบูชาองค์พญานาค เป็นกลุ่มที่บูชาก่อนกระแสมาหลายปีด้วยซ้ำ เมื่อก่อนการบูชาพญานาคมีพิธีรีตรองมากมาย ต้องใส่ใจเป็นอย่างมากในการบูชาเซ่นไหว้ ยิ่งการตั้งบ่อหรือตั้งอ่างพญานาคนั้น มีพิธียิบย่อยมากมายอย่างกับตั้งศาลพระภูมิเลยทีเดียว

เมื่อต้นปีที่ผ่านมามีอาซ้อท่านหนึ่งติดต่อมาปรึกษากับผม เพราะทราบจากหลานสาวของท่านที่เคยมาดูดวงกับผมไปแล้วหลายหนด้วยกัน อาซ้อท่านนี้มีกิจการค้าส่งวัสดุก่อสร้าง และมีบ้านอยู่ในพื้นที่เดียวกันกับร้านค้าส่งวัสดุของแกเอง โดยร้านวัสดุก่อสร้างจะอยู่ด้านหน้า และมีบ้านของอาซ้ออยู่ถัดลงไปข้างหลัง ตัวบ้านมีรั้วกั้นต่างหาก

อาซ้อเล่าว่าก่อนหน้านี้กิจการเจริญรุ่งเรื่องดีมาตลอด แต่สามสี่เดือนมานี้ยอดขายซบเซาลงมาก สามีก็เริ่มล้มป่วยด้วยอาการคล้ายวัณโรค แต่เมื่อไปตรวจก็ไม่พบเชื้อใดๆ นอกจากนั้นตัวอาซ้อเองยังชอบเห็นคนเดินไปเดินมาอยู่ในบ้านตอนกลางคืนอีกหลายครั้ง ทั้งที่ในบ้านนั้นมีเพียงอาซ้อและสามีอยู่ด้วยกันสองคนเท่านั้น หนักๆ เข้าก็เริ่มมีคนมาทักว่าหน้าตาหมองคล้ำลง และดูซูบผอมลงไปมาก

อาซ้อพยายามไปปรึกษาหมอดูหลายครั้ง รวมทั้งพระสงฆ์ที่อาซ้อเองนับถือด้วย แต่ละคนต่างบอกเล่าถึงสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป อาซ้อเองแกก็พยายามแก้และปรับเปลี่ยนตามที่หมอดูบอกทุกอย่าง แต่ก็ไม่ได้ดีขึ้น มีบางครั้งที่ดูเหมือนว่าจะเริ่มดีขึ้นแต่ไม่นานก็กลับมาเป็นสภาพเช่นเดิมอีก

เมื่ออาซ้อได้คุยกับหลานสาวที่เคยมาดูดวงกับผม หลานสาวของอาซ้อก็แนะนำให้ติดต่อมาที่ผม อาซ้อตอนนั้นเหมือนไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ใครว่าอะไรดีก็จะลองหมด เลยตัดสินใจติดต่อมาที่ผมให้ไปดูดวงให้

วันต่อมาผมนัดเจอกับอาซ้อที่ร้านวัสดุก่อสร้างของแกเอง ผมเริ่มจากดูพื้นดวง เกณฑ์ชะตา ตามปกติแต่ในดวงก็ไม่ได้บ่งบอกถึงสาเหตุอะไร จะมีก็แต่เรื่องสุขภาพที่ขึ้นในดวงว่าไม่ดีนักเท่านั้น

อาซ้อเริ่มเล่าสิ่งที่เจอให้ผมฟังทีละเรื่อง ตั้งแต่ตอนที่สามีเริ่มป่วย จนถึงเริ่มเห็นคนแปลกหน้าเดินไปเดินมาในบ้าน แกเล่าว่ามันเหมือนคนธรรมดานี่แหละแต่ชอบมาให้เห็นตอนกลางคืน จะว่าลูกจ้างก็ไม่ใช่เพราะไม่มีใครเข้ามาในเขตตัวบ้านอยู่แล้ว เคยนิมนต์พระมาทำพิธีที่บ้านแต่ก็เงียบไปได้แค่ไม่กี่วันก็กลับมาอีก

ฟังถึงตอนนี้ผมเริ่มเอะใจว่าต้องมีอะไรผิดปกติในบ้านเป็นแน่ ผมจึงขออนุญาตอาซ้อเข้าไปดูในเขตบ้าน ซึ่งแกก็ยินดีให้เข้าไป อาซ้อพาผมเดินลัดลงหลังร้านแล้วเปิดประตูรั้วเข้าไปยังตัวบ้าน พอผมก้าวขาเดินเข้าไปในบ้านหางตาผมก็เห็นอะไรแวบๆ วูบผ่านไปทางซ้าย (ปกติผมชอบเห็นอะไรแบบนี้ที่หางตาเป็นประจำครับ) พอผมหันตามก็เห็นศาลพระภูมิเสาสูงสีขาวกับอ่างน้ำขาสูงที่มีรูปปั้นพญานาคอยู่ในอ่าง ตั้งอยู่ข้างๆ กัน

ตอนนี้ผมค่อนข้างมั้นใจว่าต้องมีอะไรเกี่ยวกับศาลพระภูมิไม่ก็รูปปั้นพญานาคนี้แน่ๆ แต่ก็ยังไม่ได้ถามอะไรอาซ้อ ซ้อพาผมเข้าไปดูในบ้าน พอถึงห้องพระผมก็กราบพระที่อยู่ในหิ้ง แล้วอธิษฐานขอให้ท่านช่วยให้ผมหาสาเหตุเจอและสามารถแก้ไขได้ จะได้ไม่เสียทีที่ได้มา ถ้าอาซ้อแกมีบุญอยู่บ้างก็ขอให้ได้รับรู้รับเห็น

หลังจากนั้นผมก็ให้อาซ้ออธิษฐานบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบ้านด้วย ก่อนจะให้อาซ้อออกไปอธิษฐานบอกศาลพระภูมิกับรูปปั้นพญานาคหน้าบ้าน ขณะที่อาซ้อกำลังจุดธูปบอกกล่าวศาลพระภูมิอยู่นั้น ผมก็รู้สึกว่าเหมือนมีใครยืนอยู่รอบๆ เป็นความรู้สึกที่อึดอัดแบบบอกไม่ถูก และสิ่งที่ผมเห็นหลังจากนั้นคือเงาของศาลพระภูมิที่ทอดทับลงบนรูปปั้นพญานาคแบบมิดทั้งองค์ ทำให้ผมเข้าใจได้ทันทีว่าสาเหตุที่เกิดเรื่องต่างๆ ขึ้นต้องมาจากการที่อาซ้อตั้งอ่างพญานาคใต้เงาศาลพระภูมิอย่างแน่นอน

ผมจึงถามซ้อว่ารูปปั้นพญานาคในอ่างเอามาจากไหน อาซ้อตอบว่ามีญาติคนหนึ่งให้มาบูชา ตัวเองเป็นคนศรัทธาอยู่แล้วเลยเชิญมาไว้ในอ่างบัว เพราะคิดว่าพญานาคท่านคงชอบอยู่ในน้ำ

ผมถามอาซ้อต่อว่ารูปปั้นพญานาคนี่ไม่ได้ผ่านพิธีอะไรมาใช่ไหม อาซ้อตอบว่าญาติไปเที่ยวสถานที่แห่งหนึ่งมาแล้วซื้อรูปปั้นพญานาคในร้านค้าที่วางขายที่นั่นกลับมาด้วย ไม่ได้บูชามาจากวัดหรือที่ไหน แต่อาซ้อคิดว่าแค่ศรัทธาก็น่าจะพอแล้ว ที่ผ่านมาไม่เคยคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเพราะรูปปั้นพญานาคเลย เพราะทุกวันพระอาซ้อจะถวายไก่ต้มกับผลไม้ให้รูปปั้นพญานาค และมักจะได้โชคบ่อยๆ ด้วย

ผมจึงขอบารมีครูบาอาจารย์ กำหนดจิตดูรูปปั้นพญานาคนั้น พอจิตเริ่มสงบสิ่งที่ผมเห็นนั้นเป็นวิญญาณสัมภเวสีมากมายเกือบสิบตนแทรกตัวอยู่ตามอ่างน้ำและพุ่มไม้ทึบแถวนั้นเต็มไปหมด

ผมเล่าให้อาซ้อฟังว่าที่ผมเห็นนั้นไม่ใช้พญานาคแต่เป็นสัมภเวสี และผมขออนุญาตเอารูปปั้นพญานาคเข้าไปในบ้าน จากนั้นให้อาซ้อนิมนต์พระมาสวดพระปริตรและพรมน้ำมนต์ให้รอบบ้านโดยเฉพาะตรงอ่างที่เคยวางพญานาค เมื่อทำเสร็จแล้วให้บอกผมอีกที อาซ้อก็รับคำหนักแน่น

สองวันต่อมาอาซ้อก็ติดต่อกลับมาหาผม ผมได้ให้อาซ้อเตรียมเครื่องบวงสรวงพญานาครอ ผมจะกำหนดฤกษ์มงคลแล้วไปตั้งอ่างพญานาคให้ใหม่ เมื่อทุกอย่างพร้อมผมก็ได้ทำพิธีกรรมตามที่ครูบาอาจารย์เคยแนะนำสั่งสอนมา โดยได้ย้ายอ่างพญานาคจากเคยอยู่ข้างศาลพระภูมิมาอยู่อีกที่หนึ่ง เมื่อประกอบพิธีเสร็จแล้วผมก็กำชับอาซ้อว่าห้ามถวายของคาวเด็ดขาด ถวายได้เฉพาะผลไม้และเครื่องหอมเท่านั้น

หลังจากนั้นไม่นานผมมีโอกาสได้เจออาซ้ออีกครั้งที่วัดแห่งหนึ่ง อาซ้อบอกว่ากิจการกลับมาตั้งตัวได้ และสามีเริ่มอาการทุเลาลงมาก ตัวแก้เองก็ไม่เห็นใครเดินวนเวียนในบ้านอีกแล้ว ทั้งยังขอให้ผมไปตั้งอ่างพญานาคอีกองค์ที่ร้านวัสดุก่อสร้างของแกด้วย

เรื่องราวทั้งหมดก็มีเท่านี้ครับ ติดตามเรื่องเล่าต่างๆ ของผมได้ที่แท็ก #ชยาเป็นคนเล่า และเช่นเคยครับมีข้อคิดเห็นยังไงหรือมีข้อสงสัยก็สามารถแสดงความคิดเห็นหรือติชมให้กำลังใจในการเล่าเรื่องต่อไปกันได้นะครับ ขอบคุณที่อ่านจนจบครับผม